วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

โรงแรมที่พัก

ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท
ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท ตั้งอยู่ที่อำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี ระยะทางห่างจากตัวเมืองอุบลประมาณ 95 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์ ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท อยู่ภายใต้ร่มเงาไม้หลากหลาย และกลิ่นอายแม่น้ำโขง เหมาะแก่การพักผ่อนและรับอากาศบริสุทธิ์ ณ บริเวณปลายสุดแม่น้ำโขง ที่พระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง และจุดรับแม่น้ำสองสีตัดกัน เรียกว่า โขงสีปูนมูลสีคราม
บ้านริมโขง รีสอร์ท

บ้านริมโขง รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่สวยและบรรยาดีอีกที่หนึ่งในอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งที่ตั้งของบ้านริมโขงอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ และอุทยานแห่งชาติผาแต้มและที่ตั้งของรีสอร์ทอยู่ในตัวอำเภอ โขงเจียม ประมาณ100 เมตร และอยู่ติดกับภูเขาและแม่น้ำโขง ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ภายในห้องพักได้ถูกออกแบบให้เรียบง่าย ในบรรยากาศธรรมชาติที่เงียบสงบ นอกจากนี้ ภายในรีสอร์ทยังมีบริการ อาหาร เครื่องดื่มไว้บริการท่านที่ร้านริมโขง ลิ้มลองเมนูเด็ดของร้านริมโขงในบรรยากาศ ธรรมชาติใกล้ชิดกับแม่น้ำโขง เพื่อให้บรรยากาศการรับประทาน อาหาร แตกต่างจากที่อื่นๆที่ท่านเคยสัมผัส

โรงแรมทอแสงอุบล

โรงแรมทอแสงอุบล ตั้งอยู่ในมุมเมืองสงบและน่ารักใจกลางอุบลราชธานี จากสนามบินนานาชาติเพียง 10 นาทีก็จะได้พบกับโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงแฝงไว้ด้วยวัฒนธรรม และประเพณีแต่โบราณในขณะเดียวกันโรงแรมมีจุดเด่นในโครงสร้าง ของสถาปัตยกรรม อีกทั้งบรรยากาศท้องถิ่นที่ทันสมัยสามารถสร้างภาพ ประทับใจ ซึ่งแตกต่างไปจาก ภาพซ้ำซากจำเจของโรงแรมสูงลัดฟ้าอื่นๆในดินแดนอีสาน โรงแรมลายทอง
โรงแรมลายทอง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาทีก็สามารถเดินทางถึงสนามบินนานาชาติ อีกทั้งตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญ อาทิโรงพยาบาล ธนาคาร และแหล่งธุรกิจต่างๆ ที่สะดวกต่อการเดินทาง พร้อมบริการห้องพักถึง 124 ห้อง ทั้งยังมีบริการต่างๆ อีกครบครัน พบกับ ห้องอาหารเรือนทอง ที่มีอาหารนานาชาติรสเลิศ ไว้ให้ท่านลิ้มลองตลอดทั้งวัน และฟังดนตรีไพเราะจากวงแสดงสดยามค่ำคืน ห้องอาหารซากุระ & เซียงไฮ้ ชั้น 2 ของโรงแรมลายทอง ท่านจะได้พบกับอาหารเลิศรส พร้อมบรรยากาศแบบผสมผสาน ระหว่างญี่ปุ่น และจีนอย่างลงตัว อิ่มอร่อยได้ทั้งมื้อกลางวัน และมื้อเย็น ตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น.และ 18.00-23.00 น. คอฟฟี่ช็อป มุมพักผ่อนสบายๆ กับเครื่องดื่มเบาๆ และเบเกอรี่แสนอร่อย ล็อบบี้บาร์ ที่ท่านจะนั่งพักผ่อนหลังเสร็จจากภารกิจประจำวันมานั่งจิบคอกเทลหลากรส เครื่องดื่มชั้นเลิศ กับเสียงเปียโนเพราะๆ พร้อมวงดนตรีที่บรรเลงสดให้ท่านรับฟังทุกวัน อีบาผับ อีกหนึ่งทางเลือกในการพบปะสังสรรค์ และค้นพบความสนุกที่แท้จริง พบกับวงดนตรีสดได้ทุกค่ำคืน บริเวณด้านข้างของโรงแรม สระว่ายน้ำ และบริการนวดแผนไทยคลายเส้นโดยพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ และชำนาญเป็นพิเศษ อีกบริการเพื่อสุขภาพและการผ่อนคลาย
โรงแรมอุบลบุรี
โรงแรมอุบลบุรี ตั้งอยู่บนฝั่งกุดศรีมังคละใจกลางเมืองอุบลราชธานีเมืองดอกบัวอันลือชื่อแห่งดินแดนอีสานห่างจากสนามบินนานาชาติอุบลราชธานีเพียง 9 นาที สะดวกสบายในการติดต่อธุรกิจหรือเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญต่างๆเพียงก้าวแรก คุณจะสัมผัสถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นภายในวิคตอเรียล็อบบี้เลาจน์ด้วยบรรยากาศการออกแบบอย่างธรรมชาติ ที่แฝงด้วยความสง่า งามสำหรับพบปะมิตรสหายเพื่อนนักธุรกิจ หรือแขกบ้าน แขกเมือง เราได้จัดเตรียมห้องพัก 110 ห้องตกแต่งอย่างมีรสนิยมคงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ที่หรูหราคลาสิค กลกลืนกับความทันสมัยเพื่อสร้างความประทับใจ ในทุกนาทีแห่งการพักผ่อน ห้องพักทุกห้องไม่ว่าจะเป็นห้องเดี่ยว,ห้องคู่หรือห้องสวีทล้วนพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเสมือนบ้านอีกแห่งหนึ่ง นอกเหนือจากนั้นยังมี สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ไว้ให้บริการ สำหรับการต้องการเวลาที่เป็นส่วนตัวทางโรงแรมอุบลบุรีรีสอร์ทได้จัดสรร เรือนพักสไตล์รีสอร์ทอีก30 หลังแยกออกจากอาคารโรงแรมเพื่อความเป็นสัดส่วนและได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศพื้นบ้านแท้ไม่ซ้ำใครในทุกมุมมอง

สามพันโบก

แก่งสามพันโบก

แก่งสามพันโบก เริ่มเป็นที่รู้จักและปรากฎสู่สายตานักท่องเที่ยว เมื่อโฆษณาของ ท.ท.ท. ชุด พี่เบิรด เริ่มออกฉาย ภาพ สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นฉากจบของโฆษณาชุดนี้จึงกลายเป็นคำถามว่า ที่ไหนกัน เมืองไทยมีที่แห่งนี้ด้วยเหรอนับแต่นั้นมา แก่งสามพันโบก จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่กำลังเ็้นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง แก่งสามพันโบก เป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก โบก หรือแอ่ง หมายถึง บ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ลำน้ำโขง และคำว่า “โบก” เป็นภาษาของลาวที่มักนิยมเรียกกัน และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำกลายเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสุดอลังการกลางลำน้ำโขง ที่สวยงามแปลกตาจนชาวบ้านเรียกว่า แกรนแคนยอนน้ำโขงซึ่งจะสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้ ตั้งแต่เดือนธันวาคม - พฤษภาคม

ที่มา: http://www.paiduaykan.com/76_province/Northeast/ubonratchathani/samphanboke.html

http://hilight.kapook.com/view/35370

แนะนำตัว+ปฏิทิน

ชื่อนางสาวสายฝน ผลสินธ์

ชื่อเล่น แหม่ม

วิชาเอก วิทยาการคอมพิวเตอร์

คณะวิทยาการสารสนเทศ

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย

ข้อมูลทั่วไป
อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย ตั้งอยู่ในท้องที่ อำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย และอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศลาวและประเทศกัมพูชา พื้นที่ป่าอยู่ในส่วนหนึ่งของเทือกเขาพนมดงรักประกอบด้วยภูเขาภูเล็กภูน้อยมากมาย เช่น ภูจองนายอย ภูจองน้ำซับ ภูจอง ภูจันทร์แดง ภูพลาญสูง ภูพลาญยาว เป็นต้น มีสภาพป่าสมบูรณ์ สภาพธรรมชาติที่สวยงาม และมีสัตว์ป่าชุกชุม มีเนื้อที่ประมาณ 428,750 ไร่ หรือ 686 ตารางกิโลเมตร

ที่มา : http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=99&lg=1

http://www.paiteaw.com/nationalparks/49/

http://www.trekkingthai.com/cgi-...d%3Dtrip

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

มีพื้นที่ประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร ในเขตอำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร ได้ รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2534 สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง และเนิน เขา มีหน้าผาสูงชันซึ่งเกิดจากการแยกตัวของผิวโลก สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าเต็งรัง มีหินทรายลักษณะ แปลกตากระจายอยู่ทั่วบริเวณ มีพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน การเดินทางจากอำเภอโขงเจียมใช้ เส้นทาง 2134 ต่อด้วยเส้นทาง 2112 แล้วแยกขวาไปผาแต้ม อีกราว 5 กิโลเมตร รวมระยะทางจาก โขงเจียมประมาณ 18 กิโลเมตร สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่

เสาเฉลียง

เสาเฉลียง ตั้งอยู่ที่ ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 217 จากจังหวัดอุบลราชธานี ไปอำเภอพิบูลมังสาหาร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2222 ไปอำเภอโขงเจียม จากอำเภอโขงเจียมใช้เส้นทางสาย 2134 (โขงเจียม - ศรีเมืองใหม่) ประมาณ 5 กิโลเมตร แยกขวา เข้าเส้นทางสาย 2112 อีกประมาณ 9 กิโลเมตร มีทางแยกขวาไปผาแต้ม จะถึงเสาเฉลียงประมาณ 1.5 กิโลเมตรก่อนถึงผาแต้ม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี เสาเฉลียงเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ สืบเนื่องมาจากกระบวนการกัดเซาะและกัดกร่อนด้วยอิทธิพลของน้ำและลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการสึกกร่อนโดยแม่น้ำหรือธารน้ำไหลกัดเซาะเป็นเวลาชั่วนาตาปี เกิดขึ้นในชั้นหินที่วางตัวอยู่ในแนวราบหรือเกือบราบและในแต่ละชั้นมีส่วนประกอบของแร่ที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีความแข็งและทนทานที่ไม่เหมือนกัน ประติมากรรมชิ้นเอกร่วมกันของหินทราย 2 ยุค คือ หินทรายยุค ครีเตเซียส ซึ่งมีอายุประมาณ 130 ล้านปี เป็นส่วนดอกเห็ดอยู่ท่อนบน และหินทราย ยุคไดโนเสาร์ มีอายุประมาณ 180 ล้านปี เป็นส่วนต้น เสาหินท่อนล่างโดยผ่านการถูกชะล้างพังทลายอันเกิดจากสภาพอากาศ ฝนและลมพายุเป็นเวลาหลายล้านปี ซึ่งคุณสมบัติทางธรณีวิทยาของหินทรายนั้นง่ายต่อการสึกกร่อนกว่าหินชนิดอื่นที่จัดอยู่ในกลุ่มหินชึ้นเดียวกัน และเมื่อผ่านการสึกกร่อนไปได้ระยะหนึ่งก็มีสิ่งที่เรียกว่า กระบวนการต้านทานทางธรรมชาติ และแรงกดทับของเม็ดฝนทำให้หินทรายแข็งยิ่งขึ้น เป็นผลให้สามารถรักษาสภาพให้คงรูปได้ดังที่เห็นอยู่ในรูปข้างๆนี้ "เสาเฉลียง" แผลงมาจาก "สะเลียง" แปลว่า "เสาหิน"

ภาพเขีนสีโบราณ
บริเวณด้านล่างของผาแต้มมีภาพเขียนสี ก่อนประวัติศาสตร์ปรากฏเรียงรายอยู่เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ำกว่าสามพันถึงสี่พันปี ทางอุทยานฯ ได้ทำทางเดินจากหน้าผาด้านบนลงไปชมภาพเขียนสีเหล่านี้ที่หน้าผาด้านล่าง ระยะทางประมาณ 500 เมตร ภาพเขียนจะอยู่บนผนังหน้าผายาวติดต่อกันประมาณ 180 เมตร ซึ่งเป็นมุมต่ำกว่า 90 องศา มีภาพทั้งหมด ประมาณ 300 ภาพ แบ่งเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ภาพคนทำนา ภาพสัตว์ ภาพมือ ภาพลายเรขาคณิต และภาพตุ้ม (เครื่องมือจับปลาของชาวประมงริมโขง) ด้านตรงข้ามผา แต้มคือ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจจะชม พระอาทิตย์ขึ้นก่อนที่แห่งใดในประเทศไทย ในบริเวณดังกล่าวในลักษณะเดียวกันกับที่หมู่บ้านเวินบึกที่ตั้ง อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงไม่ไกลจากบริเวณแม่น้ำสองสีมากนัก ซึ่งทุกวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่อง เที่ยวเป็นจำนวนมาก ภาพเขียนโบราณแบ่งเป็น 4 ชุดใหญ่ๆ ชุดที่สวยและชัดเจนที่สุดคือ ชุดที่ 2 ได้แก่
ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ กลุ่มที่ 1(ผาขาม)
ภาพเขียนสีกลุ่มที่ 2 ผาแต้ม
ภาพเขียนสีกลุ่มที่ 3 ผาหมอนล่าง
ภาพเขียนสีกลุ่มที่ 4 ผาหมอน
น้ำตกสร้อยสวรรค์
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมีแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้ จะมีน้ำไหลในช่วงเดือนมิฟถุนายน - ธันวาคม เกิดจากลำธาร 2 สาย คือ ห้วยสร้อย น้ำตกในลักษณะแนวบันไดและห้วยสะหนม น้ำจะตกลงในแนวดิ่งหน้าผาทำมุม 90 องศา ซึ่งทั้งสองสายจะไหลมาบรรจบกันในเบื้องล่าง มองดูลักษณะคล้ายสายสร้อยสูงราว 50 - 90 เมตร กว้างราว 30 เมตร ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำโขง ในบริเวณไม่ไกลนัก หากท่านมาช่วงต้นฤดูหนาว จะได้พบกับทุ่งดอกไม้ขาดใหญ่ หลายจุด สร้อยสุวรรณา ดอกมณีเทวา ดอกหางเสือ ดอกดุสิตา ดอกหยาดน้ำค้าง ฯลฯ
น้ำตกทุ่งนาเมือง
น้ำตกทุ่งนาเมืองเป็นอีกหนึ่งในน้ำตกที่ถูกซ่อนเร้นไว้เคียงคู่กับเถาวัลย์ยักษ์ อายุนับพันปี น้ำตกแห่งนี้ก็อยู่ในเส้นทางเดียวกันกับ น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกแสงจันทร์ ทางเดินทางต่อไปอีกสัก ๑ กม. ก็จะถึงน้ำตกทุ่งนาเมือง แต่หลายคนและหลาย ๆ ทัวร์มักจะไปสิ้นสุดอยู่ที่น้ำตกแสงจันทร์แล้วเดินทางกลับ ถ้าท่านยังจำโฆษณาเหล้ายี่ห้อรีเจนซี่ได้ ก็จะจำภาพเถาวัลย์ยักษ์ที่ปรากฎอยู่ในภาพยนต์โฆษณาต่อจากภาพของน้ำตกแสง
น้ำตกแสงจันทร์ หรือ น้ำตกลงรู
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 41 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูงประมาณ 8 เมตร เกิดจากลำห้วยท่าโลงไหลตกลงจากเพิงหน้าผาเป็นช่องโพรงอันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำตามธรรมชาติ ลักษณะของโพรงมองดูคล้ายรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว มีเส้นผาศูนย์กลางประมาณ 2 เมตร ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำโขง
พระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม

เส้นทางสู่ผาแต้ม
ที่มา: http://www.thai-tour.com/thai-tour/Northeast/Ubon/data/place/npk_pataem.htm http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=19&lg=1 http://www.oceansmile.com/E/Ubon/patam.htm

จ.อุบลราชธานี

" อุบลเมืองแก่งสุนทรีย์ รับสุรีย์แรกอรุณ คืนนักบุญเหล่าบัวบาน งานเทศกาลเทียนพรรษา แหล่งอารยาก่อนประวัติศาสตร์ "
จังหวัดอุบลราชธานี เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีพื้นที่อยู่ทางด้าน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย โดยจังหวัดอุบลราชธานี นั้นนับได้ว่า เป็นจังหวัด ที่อยู่ทางทิศตะวันออกสุด ของประเทศไทย ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี จะเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ที่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนเป็น ที่แรกในประเทศไทย
จังหวัดอุบลราชธานี นับได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ ที่ยาวนาน อีกจังหวัดหนึ่ง ของประเทศไทย ซึ่งในอดีตนั้น เมืองอุบลราชธานี เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่ง ของอาณาจักรเขมร จึงทำให้จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีความเจริญรุ่งเรือง อย่างมากในยุคที่ขอมเรืองอำนาจ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่ เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ กับพื้นที่มากกว่า 16,112.65 ตารางกิโลเมตร นับเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่ เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศไทย นอกจากจังหวัดอุบลราชธานี จะเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่แล้ว ยังมีวัฒนธรรมที่งดงาม สร้างความหลงใหล แก่ผู้คนที่มาเยือน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเทศกาลแห่เทียนพรรษา ดังคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์” อาณาเขตของ จังหวัดอุบลราชธานี ทิศเหนือ มีพื้นที่ติดต่อกับ จังหวัดอำนาจเจริญ ทิศใต้ มีพื้นที่ติดต่อกับ ประเทศกัมพูชา ทิศตะวันออก มีพื้นที่ติดต่อกับ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทิศตะวันตก มีพื้นที่ติดต่อกับ จังหวัดยโสธร และจังหวัดศรีสะเกษ